26 ก.พ. 2566 เวลา 22:10:38     โดย เรื่องเล่าผี   E-mail:tokir99652@wwgoc.com     TEL:
30 เรื่องเล่าผี จาก “หัวข้อผีพันทิป” รวมได้รับความนิยมตั้งแต่ปี 53 – ตอนนี้
https://www.sayongsquare.com/archives/1435 ในเว็บไซท์พันทิป ถือได้ว่าเป็นกระดานสนทนายอดฮิตของคนประเทศไทย เป็นศูนย์รวมของเรื่องราวนานาประการมุมมองที่ผู้คนมาเปลี่ยนประสบการณ์แล้วก็ความเห็นกัน หนึ่งในเรื่องราวพวกนั้นก็คือ “เรื่องเล่าผี” เรื่องเล่าสยองขวัญจากประสบการณ์จริงของสมาชิกพันทิป หรือบางครั้งก็อาจจะได้ยินได้รับฟัง แล้วเอามาเล่าสู่กันฟังในเว็บไซท์ที่นั้ ถ้าเกิดคนใดกันแน่เป็นแฟนๆของตรงนี้ น่าตะรู้จักกันดีกับแท็ก “เรื่องเล่าสยองขวัญ” ที่ในทุกวันจะมีเรื่องมีราวราวเชื้อเชิญขนลุก มาให้อ่านกันกระทั่งตาเฉอะแฉะ และก็นี่เป็น 30 หัวข้อผีพันทิป ที่คัดเลือกมาว่า “เด็ดจัด ปลัดบอก” จากสมาชิกในพันทิปที่ไม่สมควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ส่วนใครกันแน่ต้องการอ่านภาคสองไปอ่านได้ตามลิงก์นี้ขอรับ รวม 5 เรื่องเล่าผีจาก ‘หัวข้อผีพันทิป’ รวมได้รับความนิยมความหลอนตั้งแต่ปี 2553 – ตอนนี้ รวมหัวข้อ เรื่องเล่าผี จาก Pantip ในสมัยก่อนถึงตอนนี้ ที่ไม่สมควรพลาด 3. ประสบการณ์ “โดนของ” ที่จำต้องจำไปตลอดชีพ ผู้ตั้งหัวข้อ : สมาชิกเลข 2601631 หัวข้อจากปี : 2558 เรื่องย่อ…. นี่เป็นหัวข้อผีพันทิปที่นักเล่าการันตีหนักแน่นว่า “เป็นความจริง” เมื่อสมาชิกพันทิปรายหนึ่งออกมาเล่าถึงประสบการณ์ผลกรรม ที่บิดาถูกคุณไสย์มนต์ดำทำลายชีวิตจนถึงครอบครัวที่ต้องมีความสบายทลายลงเฉพาะหน้า โดยสหายร่วมงานเก่า ถ้าหากผู้ใดเคยมีประสบการณ์ในเรื่องแบบงี้มาบ้าง คงจะมีอารมณ์รวมทั้งคิดภาพตามได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญ…หัวข้อนี้เคยได้ออนแอร์รายการเรื่องผีรวมทั้งบำบัดรักษาบาปโด่งดังของประเทศไทยมาแล้ว เรื่องที่พ้อยจะมาเล่าในวันนี้เกิดเรื่องที่โคตรจะน่าอัศจรรย์มากมายกกกกกกกกกก พ้อยมีความคิดว่าทุกคนคงเคยรับรู้เกี่ยวกับการโดนของมาบ้าง แม้กระนั้นมันยากนะคะที่จะเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยปัจจุบันนี้แล้วด้วย เชื่อว่าเลยว่ามันจะมีอยู่จริง เรื่องที่จะเล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดสังกัดครอบครัวของพ้อยเองจ้ะ มันเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว ไม่สิ จำต้องบอกว่า..กำเนิดกับผู้ที่พวกเรารักเยอะที่สุดในชีวิต ใช่จ้ะ มันเกิดขึ้นกับบิดาของพ้อยเอง .          ครอบครัวของพวกเราอาศัยอยู่กันที่จังหวัดหนึ่งใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ บิดาของพ้อยท่านปฏิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจ้ะ เ รีชูว่ามีขั้นที่สูงอย่างยิ่งจริงๆ เป็นบุคคลที่มีน่าตา โด่งดังเกียรติศักดิ์ท่านเป็นผู้ที่ขยันทำงานมากกล่าวได้ว่างานไม่เสร็จบิดาก็จะไม่กลับ ไม่พัก ไม่ว่าจะเสาร์อาทิเช่นตหยุดราชการอะไรก็ตามบิดาก็จะไปปฏิบัติงานเสมอ ท่านเป็นคนแบบงี้มานานมาแล้ว จนกระทั่งบางคราวเราก็น้อยเนื้อต่ำใจว่าเพราะเหตุไรบิดาไม่หยุดงานแล้วไปท่องเที่ยวกับครอบครัวบ้าง   แต่ว่าก็รู้เรื่องจ้ะ ที่ท่านทำก็เพราะเหตุว่าครอบครัว เพราะว่ารายได้หลักของครอบครัวมาจากบิดาผู้เดียว ท่านไต่เต้าจากตำแหน่งน้อยๆขึ้นมาเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงได้ เเละท่านไม่เคยหลอกลวงเงินของแผ่นดินเลยแม้กระทั้งบาทเดียว เป็นพวกเราพึงใจมากมายที่มีบิดาที่เป็นคนดีขนาดนี้ ตั้งแต่พวกเราเกิดขึ้นมาจวบจนตอนนี้พวกเราอายุ18ปีแล้ว พวกเรายังไม่เคยมองเห็นบิดาทำชั่วเลยแม้กระทั้งครั้งเดียว ถ้าหากไม่นับตบยุง5555555555            เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อปี 2557 โน่นเป็นปีที่ผ่านมานี่เองจ้ะ ครอบครัวพวกเราก็ดำเนินชีวิตดังเดิมธรรมดาทุกๆวันกระทั่งวันนึง คุณพ่อและก็รวมทั้งคุณแม่พวกเรากลับไปอยู่บ้านที่ชนบท ก็ไม่มีไรจ้ะ ทุกสิ่งเสมือนจะธรรมดา จนกว่าเย็นวันนั้น คุณยายพวกเรามองหน้าบิดาพวกเรา รวมทั้งบอกขึ้นมาเฉยๆว่า "เป็นไรรึเปล่าลูกเพราะเหตุใดหน้าซีดจัง ป่วยหนักรึเปล่า" แล้วก็อาจจะด้วยความรู้สึกกลุ้มใจของท่านมั้งขา ภายหลังจากกลับตจว. ก็เลยไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย แม้กระนั้นจริงๆบิดาก็ตรวจร่างกายรายปีอยู่เเล้วนั่นแหละ บวกกับบิดาดูตนเองว่าตอนอึมันมีสีคล้ำๆปวดหลังเป็นประจำแม่กล่าวว่าบิดาพูดมากว่าที่นอนมีไรรึเปล่านอนมิได้เลยเจ็บไปหมด เสมือนมีเข็มมาทิ่มแทง แล้วทีนี้คือบิดาก็มิได้นอนเลยจริงๆ            ภายหลังไปตรวจ มันก็มีนัดวันส่องกล้อง ที่ส่องเข้าไปในปากบิดาพวกเราก็ไปส่องเป็นพวกเราเห็นใจบิดามากมาย บิดาบอกเจ็บมากมาย เจ็บท้อง ปวดมากมายกแล้วบิดาก็ร้องมันเป็นภาพที่แย่มาก พวกเราร้องตาม เห็นใจบิดา ได้แต่ว่ากล่าวว่ามันคงจะได้ผลใกล้กันสักครู่ก็หาย มาตรวจก็ดีแล้วจะได้ทราบว่าเป็นอะไรรึเปล่า ลืมบอกไป พ้อยมิได้อยู่กับบิดามารดานะ ออกมาเรียนกทมตั้งแต่มัธยม4สอบทุนจากใต้มาจ้ะ หวังจะช่วยแบ่งเบาภาระ+ต้องการเรียนพิเศษที่ดีๆทำให้ตอนนั้นพวกเรามิได้อยู่กับบิดาเลย ได้ยินเพียงแค่สิ่งที่แม่เล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง แล้ววันที่ผลตรวจออกก็มาถึง แม่พูดว่าพบก้อนเนื้อแต่ว่าโชคดีที่ไม่ใช่เนื้อร้าย แม้กระนั้นก็จะต้องตัดทิ้ง แล้วหลังจากนั้นก็นัดหมายวันตัดนู้นนี่ ก่อนที่จะผ่าตัดบิดาก็จำต้องเข้ามาตรวจดังที่หมอนัดอยู่หลายครั้ง เป็นแทบทุกวันเลยก็ว่าได้ พวกเราเห็นใจบิดามากมาย บิดาเคยกล่าวว่า'หากทราบว่าเจ็บขนาดนี้ ไม่มาตรวจแล้ว นี่มากี่ครั้งก็เจ็บทุกหน หากไม่มาอาจไม่เจ็บ' โอ้ยยย พวกเรานี่แบบร้องไห้อะ ได้แต่ว่าให้กำลังใจบอก'บิดาสู้ๆอย่าบอกอย่างงี้ สักครู่ก็หายแล้ว'              ภายหลังบิดาผ่าตัดเป็นตัดกระเพาะออกไป 70เปอเซน เป็นมากมาย บิดารับประทานไรมิได้เลย ก็อุตสาหะรับประทาน เป็นซูบผอมมากมาย พวกเรากลับมาในเวลานั้นบิดาดีแล้วขึ้นกว่าเดิมแล้ว แพทย์ให้พักรักษาตัวอยู่บ้านบิดาก็ไม่ยินยอมพัก คิดออกว่าพักได้เพียงแค่เช่นตนึงมั้ง แล้วบิดาก็ไปทำงานต่อ เรียกคนขับมารับ ทุกเมื่อเชื่อวันทนเจ็บ เพื่อไปปฏิบัติงาน บางคราวก็ทำไม่ไหวเพียงพอถึงที่ปฏิบัติงานก็ขึ้นไปหอพักไปนอน บอกแล้วว่าบิดาพวกเราเป็นคนขยันขยันเกิ๊นนน พวกเราคิดออกวันนั้นพวกเราอยู่บ้านพวกเราตื่นตอนเช้าเพื่อจะไปสอบทุนเพื่อย้ายรร.บิดาพวกเรากำลังเต้นแอโรบิกหน้าทีวี บิดาหันมามองดูพวกเรา แล้วบอกกับพวกเราว่า ‘บิดาเจ็บจังเลยลูก บิดาจะตายแล้ว บิดาเป็นโรคมะเร็งระยะท้ายที่สุด’ เป็นเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาบิดาก็เคยบอกว่าบิดาเป็นโรคมะเร็งแต่ว่าพวกเราถามแม่แม่บอกมิได้เป็นบิดาเป็นเพียงแค่เนื้องอกปกติแล้วหลังจากนั้นก็ตัดไปแล้วเดี๋ยวนี้เป็นรักษาตัวอยู่ พอเพียงพวกเราได้ยินบิดากล่าวอย่างนั้นพวกเราก็ะจะแบบ ‘เห้ออบิดาคิดมากจริงๆโรคมะเร็งอีกละ สักครู่ก็หาย บอกอยู่ได้’ เป็นเนื่องจากว่าพวกเราไม่ต้องการให้บิดาคิด พวกเราเลยแบบกล่าวถ้าอย่างนั้นไป ด้วยเหตุว่าพวกเราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นโรคมะเร็งจริงๆเนื่องจากว่าแม่ก็บอกอยู่ว่าไม่ใช่ กระทั่งกระอีกทั้งเวลาผ่านไป 7-8เดือน ลักษณะของบิดาก็ทรุดลง แม่โทรมาบอกพวกเราว่าบิดาเข้ารพ รับประทานไรมิได้มาแทบเช่นตแล้วรับประทานแล้วอาเจียนออกหมด ผลที่ตามมาไส้พันกัน จำต้องผ่าตัด ปีนี้บิดาผ่าตัด2ครั้งแล้ว ธรรมดาบิดาพวกเราเป็นคนอ้วน อ้วนมากมาย            ผ่ารอบแรกเป็นโคตรซูบผอมแล้ว แต่ว่าผ่ารอบนี้เป็นเขารับประทานไรมิได้เลยนอกเหนือจากของกินจากทางสายยาง มีสายระโยงระยางเต็มกำลังบิดาไปหมด อยู่โรงพยาบาลแทบเดือน อาการเกิดขึ้นอีกเลย รับประทานรวมทั้งอาเจียนออกมาหมด แม่พูดว่าราวกับบิดาจะไปบ่อยมากแล้ว เป็นแบบมันแย่มากนะโว้ย พวกเรานี่ต้องการกลับไปพบบิดามากมาย ครั้งใดก็ตามแม่โทรมาพวกเราภาวนาเสมอว่าให้มีข่าวดีเกิดขึ้นแม้กระนั้น..ก่อนสอบ1อาทิเช่นตแม่โทรมาหาพวกเราบอกให้กลับมามองบิดา พวกเรานี่ช็อกมากมายกลัวไปหมด ไม่กล้าถามคำถามว่ากำเนิดอะไรได้แต่ว่าภาวนาขอให้สิ่งศักดาสิทธ์ปกป้องบิดา แล้วภาพที่พวกเรามองเห็นตอนพวกเรากลับไปเป็นบิดาแปรไปมากมาย ตัวซูบผอม ร่างกายราวกับหนังห่อกระดูก พวกเราจำบิดาเกือบจะมิได้ พวกเราเข้าไปหาเค้า กอดเค้า แล้วพวกเราก็จำเป็นต้องรีบวิ่งเข้าส้วมมาร้องไห้ พวกเราเห็นอกเห็นใจบิดา ไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้...           ตอนเช้าวันนั้นแม่เล่าให้ฟังว่าเมื่อวานนี้คุณยายเอาดวงบิดาไปให้แพทย์แถวบ้านมอง เขาสะดุ้ง และจากนั้นก็กล่าวว่า โดนของ ของหนักด้วย มันทำให้รับประทานมิได้เลย  เอาตายสิ่งเดียว ของอยู่เบื้องหน้าท้องทางด้านซ้าย หนักมากมาย ให้เอาน้ำมนตร์ไปให้รับประทาน น้าพวกเราก็รีบขับขี่รถจากตจวมาให้แม่พวกเราที่โรงพยาบาล บิดาดื่มน้ำมนต์นั้นเอากลับคืนเดียว ทีแรกๆที่ท้องบิดามีรูที่เป็นจากการผ่าตัดเล็กๆแต่ว่าอยู่ๆมันก็ปริกลายเป็นรูใหญ่ทำให้มีน้ำที่เป็นของเสียในท้องไหลออกมา หมอบอกว่าช่างเถิดเพราะว่าอย่างไรน้ำนั้นจำต้องออกมาอยู่รวมทั้งเลยปลดปล่อยไว้อย่างนั้น พวกเราอยู่เฝ้าบิดาได้3วันพวกเราก็จำต้องขึ้นกรุงเทพมหานครไปสอบแล้ว กะว่าสอบเสร็จสักครู่จะกลับมา  ก่อนพวกเราไปพวกเราก็กราบเท้าบิดา จุ้บบิดา พวกเราบอกบิดาว่า 'ห้ามเป็นไรไปก่อนนะ ประเดี๋ยวพ้อยขอไปสอบก่อนละประเดี๋ยวกลับมา คอยพ้อยเป็นทันตะก่อนนะบิดา' บิดาเอ็งก็อือ ออ บอกรีบไปได้แล้วสักครู่ตกเครื่อง บิดาช่างเถิดหรอก แล้วพวกเราก็ไป ใครกันแน่จะไปทราบดีว่านั้นจะเป็นหนสุดท้ายที่พวกเราได้ทำอย่างงั้นกับบิดา..       และก็เกิดเหตุราวแปลกหลายๆอย่างขึ้น เป็นบิดาพวกเรามีผู้ขับส่วนตัวแล้วพี่เขาเป็นคนดีมากมายเลย บิดาพวกเราเลยรัก แล้วก็สนิทกับพี่เขามากมาย คนขับบิดาก็เล่าให้ฟังว่า พี่เขารู้จักกับคนแก่คนนึงแล้ววันนั้นพี่เอ็งก็ไปขับขี่รถให้คนแก่คนนั้นแล้วเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างมันเรียงร้อยต่อกันอยู่ๆก็คุยกันและจากนั้นก็เล่าที่ดูชะตาบิดาพวกเราว่าโดนของให้คนแก่ฟัง เขาก็บอกเนี่ยเขารู้จักแพทย์คนนึงเก่งมากมายเป็นแขก บุตรสาวเอ็งก็เคยโดนของปางตายเช่นเดียวกัน ดีที่ช่วยได้ทัน เอ็งบอกไม่รู้จักเพราะอะไรถึงรู้สึกต้องการช่วยแม้ว่าจริงๆมึงจะไม่ยุ่งก็ได้ มันรู้สึกแบบเอ็งจำเป็นต้องช่วย เช้าตรู่วันต่อทางหมอนัดกับแม่พวกเราที่บ้านทำนองว่าให้ไปดูของที่บ้านในตอนนั้นที่ไปก็มีแม่กับพี่ชายคนโต เพียงพอไปถึง แพทย์เขาก็เดินวนไปๆมาๆเบื้องหน้าบ้าน ครู่หนึ่งเอ็งก็กล่าวขึ้นมาว่าของอยู่ที่ตรงนี้รวมทั้งชี้ไปที่พื้นหน้าบ้านพวกเรา ซึ่งมันมีปูนฉาบอยู่ เขาพูดว่าให้ขุด ทุกคนแบบมองหน้ากัน ไม่รู้เรื่องจะเชื่อดีมั้ย แต่ว่าก็เอาอย่างที่หมอบอก ไปเอาจอบมาขุด ก็ไม่พบอะไร หมอบอกขุดอีกลึกหน่อย ขุดไปครู่หนึ่ง เห้ยยยย พบว่ะ มันเป็นราวกับผ้าแบบเศษผ้าเป็นเส้นยาวๆสีแดง มีเส้นผมเป็ดผูกๆที่ฉาบด้วยน้ำตาเทียน มีตะปูประมาน5-6ตัว แล้วก็ที่มันชัดแจ้งสุดๆเป็นมีตัวอักษรเขียนอยู่ในนั้นเป็นยันต์ และก็เขียนว่า     ‘ห้ามรับราชการ’    ‘ตาย’   นอกจากยังมีลักษณะเหมือนหนังสีดำที่ตัดเป็นรูปตุ๊กตามีรูปปืนยิงที่ศีรษะ ทำนองว่าเอาให้ตายทุกทางเลย ทุกคนอึ้งมากมาย ไม่มีผู้ใดต้องการจะเชื่อสิ่งเกิดขึ้น เขาก็ประกอบพิธีแก้ของ แม้กระนั้นเค้ากล่าวว่าแพทย์ที่ทำเนี่ยแก้ได้สิ่งเดียว กันมิได้ ดังนั้นจำต้องเฉยๆไว้ว่าพวกเราทราบแล้ว แพทย์เค้าพูดว่ามันทำมาเมื่อวันที่21เดือนมีนาคม 2557 คนใกล้ตัวเป็นคนทำ ทะเลาะกัน เรื่องเงิน คนขับบิดาก็ไปสืบๆมาก็ยังไม่ได้การไรล้นหลาม พอกลับไปที่โรงพยาบาลบิดาพวกเรากำลังนอนอยู่พี่พวกเราอีกคนก็เล่าให้ฟังว่าเนี่ยเวลาที่แม่กับพี่ไปที่นุ้นกัน บิดาบอกเจ็บท้องมากมายในตอนนี้เป็นบิดาพวกเราใส่หน้ากากออกสิเจนอยู่ บิดาเขียนใส่กระดาษว่า ‘บอกแพทย์ให้เอาแม็กออกมาจากท้องบิดาคราว’ งงมากงมันโคตรแบบโอ้ยย จากนั้นช่วงค่ำบิดามึงก็อาการดียิ่งขึ้นบิดาก็พูดว่าดีจัง สบายท้องแล้วแพทย์คัดออกให้แล้วสินะ ทุกคนก็ได้แม้กระนั้นมองหน้ากัน มีแต่ว่าแม่ที่รอคุยกับบิดา ถามนุ้นนี่บิดา ในเวลานั้นบิดาพวกเราเริ่มหลงๆลืมๆอะ จำไรไม่ค่อยได้ เริ่มเพ้อ สุดแต่ละเรื่องที่เอ็งเพ้อออกมาเป็นเกิดเรื่องงานทั้งหมดเลย ‘ถามคำถามว่าทราบมั้ยว่าในเวลานี้บิดาอยู่ไหน บิดาเจ็บป่วยนะ บิดาจำต้องรักษาตัวเองก่อนอย่าไปห่วงเรื่องงาน งานใครๆก็ทำเป็น สักครู่บิดาจำเป็นต้องรักษาตัวก่อนแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยไปดำเนินงาน พาแม่ท่องเที่ยวสมุทรที่บิดาบอกยังไง’  แม่พวกเราร้องไห้บ่อย แทบครั้งใดก็ตามกล่าว แม่เชื่อตลอดดว่าบิดาต้องหายไม่หรอกจำเป็นต้องพูดว่าทุกคนมั่นใจว่าบิดาจำต้องไม่เป็นอะไร
ความคิดเห็น ที่1 วันที่ 14 มี.ค. 2566 เวลา 14:05:02

ความคิดเห็น ที่2 วันที่ 16 มี.ค. 2566 เวลา 03:26:23

ความคิดเห็น ที่3 วันที่ 26 มี.ค. 2566 เวลา 09:37:06

ความคิดเห็น ที่4 วันที่ 28 มี.ค. 2566 เวลา 01:55:58

ความคิดเห็น ที่5 วันที่ 9 เม.ย. 2566 เวลา 04:06:24

ความคิดเห็น ที่6 วันที่ 9 เม.ย. 2566 เวลา 15:09:04

ความคิดเห็น ที่7 วันที่ 26 เม.ย. 2566 เวลา 11:33:11

ความคิดเห็น ที่8 วันที่ 1 พ.ค. 2566 เวลา 15:53:31

ความคิดเห็น ที่9 วันที่ 5 พ.ค. 2566 เวลา 14:22:44

ความคิดเห็น ที่10 วันที่ 18 พ.ค. 2566 เวลา 01:45:43

ความคิดเห็น ที่11 วันที่ 19 พ.ค. 2566 เวลา 02:37:54

ความคิดเห็น ที่12 วันที่ 24 พ.ค. 2566 เวลา 13:28:57

ความคิดเห็น ที่13 วันที่ 31 พ.ค. 2566 เวลา 20:56:30

ความคิดเห็น ที่14 วันที่ 16 มิ.ย. 2566 เวลา 23:21:18

ความคิดเห็น ที่15 วันที่ 20 มิ.ย. 2566 เวลา 08:16:59

ความคิดเห็น ที่16 วันที่ 24 มิ.ย. 2566 เวลา 00:04:09

ความคิดเห็น ที่17 วันที่ 14 ก.ค. 2566 เวลา 00:40:37

ความคิดเห็น ที่18 วันที่ 14 ก.ค. 2566 เวลา 21:28:10

ความคิดเห็น ที่19 วันที่ 21 ก.ค. 2566 เวลา 19:32:15

ความคิดเห็น ที่20 วันที่ 11 ส.ค. 2566 เวลา 02:09:37

ความคิดเห็น ที่21 วันที่ 11 ส.ค. 2566 เวลา 14:13:33

ความคิดเห็น ที่22 วันที่ 19 ส.ค. 2566 เวลา 04:58:17

ความคิดเห็น ที่23 วันที่ 9 ก.ย. 2566 เวลา 10:11:45

ความคิดเห็น ที่24 วันที่ 10 ก.ย. 2566 เวลา 08:34:40

ความคิดเห็น ที่25 วันที่ 18 ก.ย. 2566 เวลา 19:09:39

ความคิดเห็น ที่26 วันที่ 6 ต.ค. 2566 เวลา 11:58:52

ความคิดเห็น ที่27 วันที่ 6 ต.ค. 2566 เวลา 17:04:58

ความคิดเห็น ที่28 วันที่ 19 ต.ค. 2566 เวลา 03:24:45

ความคิดเห็น ที่29 วันที่ 5 พ.ย. 2566 เวลา 19:57:36

ความคิดเห็น ที่30 วันที่ 6 พ.ย. 2566 เวลา 12:12:20

ความคิดเห็น ที่31 วันที่ 16 พ.ย. 2566 เวลา 20:28:48

ความคิดเห็น ที่32 วันที่ 5 ธ.ค. 2566 เวลา 20:44:56

ความคิดเห็น ที่33 วันที่ 6 ธ.ค. 2566 เวลา 06:23:34

ความคิดเห็น ที่34 วันที่ 31 ธ.ค. 2566 เวลา 18:24:59

ความคิดเห็น ที่35 วันที่ 3 ม.ค. 2567 เวลา 22:02:58

ความคิดเห็น ที่36 วันที่ 4 ม.ค. 2567 เวลา 03:43:28

ความคิดเห็น ที่37 วันที่ 29 ม.ค. 2567 เวลา 06:18:34

ความคิดเห็น ที่38 วันที่ 3 ก.พ. 2567 เวลา 11:29:10

ความคิดเห็น ที่39 วันที่ 3 ก.พ. 2567 เวลา 13:43:55

ความคิดเห็น ที่40 วันที่ 25 ก.พ. 2567 เวลา 15:43:16

ความคิดเห็น ที่41 วันที่ 1 มี.ค. 2567 เวลา 16:21:53

ความคิดเห็น ที่42 วันที่ 1 มี.ค. 2567 เวลา 23:35:34

ความคิดเห็น ที่43 วันที่ 6 มี.ค. 2567 เวลา 02:43:45

ความคิดเห็น ที่44 วันที่ 16 มี.ค. 2567 เวลา 19:21:16

ความคิดเห็น ที่45 วันที่ 26 มี.ค. 2567 เวลา 02:59:43

ความคิดเห็น ที่46 วันที่ 26 มี.ค. 2567 เวลา 11:59:03

ความคิดเห็น ที่47 วันที่ 30 มี.ค. 2567 เวลา 15:23:51

ความคิดเห็น ที่48 วันที่ 31 มี.ค. 2567 เวลา 00:40:52

ความคิดเห็น ที่49 วันที่ 31 มี.ค. 2567 เวลา 05:39:14

ความคิดเห็น ที่50 วันที่ 18 เม.ย. 2567 เวลา 05:53:44

ความคิดเห็น ที่51 วันที่ 24 เม.ย. 2567 เวลา 09:05:08

ความคิดเห็น ที่52 วันที่ 25 เม.ย. 2567 เวลา 12:48:47

ความคิดเห็น ที่53 วันที่ 25 เม.ย. 2567 เวลา 13:59:54

แสดงความคิดเห็น